พระควัมปติมหาเถระ แสดงฤทธิ์หยุดกระแสน้ำ
สมัยพุทธกาล เคยมีพระอรหันต์ผู้มีอิทธิฤทธิ์ รูปหนึ่งที่สามารถหยุดกระแสน้ำได้ วันเวลาผ่านมาเกือบ ๓,๐๐๐ ปีแล้ว ในยุคนี้ กระแสน้ำได้กลับมาอีกครั้ง เมื่อ “มรณภัย” ใกล้เข้ามา เราจะตั้งรับอย่างไร
ในครั้งพุทธกาล ท่านควัมปติเกิดเป็นบุตรของสกุลเศรษฐีสืบๆ มา ในพระนครพาราณสี เป็นหนึ่งในบรรดาสหายผู้เป็นคฤหัสถ์ทั้ง ๔ ของ ยสกุลบุตร คือ วิมล ๑ สุพาหุ ๑ ปุณณชิ ๑ ควัมปติ ๑ ยสกุลบุตรผู้เป็นบุตรของนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวปายาส ผสมน้ำนมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในเช้าวันวิสาขปุรณมี ท่านควัมปติและสหายทั้ง ๔ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาตามพระยสะ และขอออกบวชตามพระยสะกุลบุตร จากนั้นท่านทั้ง ๔ จึงได้ทูลขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระผู้มีพระภาค.
พระพุทธองค์จึงทรงโปรดประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่ท่านทั้ง ๔ โดยทรงตรัสว่า พวกเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด แล้วได้ตรัสต่อไปว่า ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว พวกเธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด พระวาจานั้นแล ได้เป็นอุปสมบทของท่านทั้ง ๔ เหล่านั้น.ต่อมา พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอวาทสั่งสอนภิกษุเหล่านั้นด้วยธรรมีกถา เมื่อจบพระธรรมเทศนา จิตของภิกษุเหล่านั้น พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น.บรรลุเป็นพระอรหัตผลตามลำดับ
พระควัมปติมหาเถระครั้นบรรลุพระอรหัตผลแล้ว เสวยวิมตติสุขอยู่ในอัญชนวัน เมืองสาเกต ในครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จไปยังเมืองสาเกต แล้วประทับอยู่ในพระวิหารอัญชนวัน เสนาสนะไม่พอ อาศัย ภิกษุเป็นอันมากพากันนอนที่เนินทราย ริมน้ำสรภู ใกล้ ๆ พระวิหาร ครั้งนั้น เมื่อห้วงน้ำหลากมาในเวลาเที่ยงคืน พวกสามเณรเป็นต้น ส่งเสียงร้องดังลั่น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเหตุนั้นแล้ว สั่งท่านพระควัมปติไปว่า ดูก่อนควัมปติ เธอจงไปสะกด (ข่ม) ห้วงน้ำไว้ เพื่อให้ภิกษุทั้งหลายอยู่อย่างสบาย พระเถระรับพระพุทธดำรัสว่า ดีแล้วพระเจ้าข้า แล้วสะกดกระแสน้ำให้หยุดด้วยกำลังฤทธิ์ ห้วงน้ำนั้นได้หยุดตั้งอยู่ดุจยอดเขา แต่ ไกลทีเดียว จำเดิมแต่นั้นมาอานุภาพของพระเถระ ได้ปรากฏแล้วในโลก
ครั้นวันหนึ่ง พระบรมศาสดาทอดพระเนตรเห็นพระเถระ นั่งท่ามกลางเทวบริษัทจำนวนมาก แล้วแสดงธรรมอยู่ เมื่อจะทรงสรรเสริญพระเถระ เพื่อประกาศคุณของท่าน ด้วยความอนุเคราะห์สัตวโลก จึงได้ทรงภาษิตพระคาถาว่า
"..เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พากันนอบน้อมพระ ควัมปติ ผู้ห้ามแม่น้ำสรภุให้หยุดไหลได้ด้วยฤทธิ์ ไม่ติดอยู่ในกิเลสและตัณหาไร ๆ ไม่หวั่นไหวต่ออะไร ทั้งสิ้น เป็นผู้ผ่านพ้นเครื่องข้องทั้งปวง เป็นมหามุนี เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ ดังนี้..."
ในการแสดงฤทธิ์หยุดกระแสน้ำของพระเถระในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มาณพผู้หนึ่งชื่อว่า มหานาค ซึ่งได้เห็น ได้เกิดศรัทธา จึงขอบวชในสำนักของพระเถระ ต่อมาท่านมหานาคเถระก็ได้บำเพ็ญเพียรจนได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง