วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

คำสอน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

เวลาที่สำคัญที่สุดของนักเรียนนักศึกษา คือตอนสอบไล่
เวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิตคนเรา คือ อารมณ์จิตก่อนตาย
จะไปสวรรค์ พรหม พระนิพพานหรือแดนอบายภูมิ
ก็อยู่ที่จิตก่อนตายของท่านจะผ่องใสหรือเศร้าหมอง

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

วันพระแรก แห่งปี พ.ศ.2558

วันพระแรก แห่งปี พ.ศ.2558
วันที่ 4 มกราคม 2558
ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2

สาธุ

คาถาความเป็น เศรษฐี โดยหลวงพ่อองอาจ

ใครที่อยากเป็นเศรษฐีลองดู

การเกิดเป็นชายและหญิง โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

การเกิดเป็นชายและหญิง
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ท่านยืนยันว่า ผู้หญิงถ้าต้องการเป็นผู้ชาย ถ้าทำบุญให้ทานตามธรรมดา ๆ อธิษฐานขอเกิดเป็นชายนี้ย่อมได้ ทีนี้ถ้าผู้ชายต้องการเป็นผู้หญิงมีไหม มีนะ พวกกระเทยสมัยนี้ มาจากโทษกฏของกรรมเดิม ถ้าผู้ชายต้องการเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ยาก เป็นชู้กับภรรยาเขา เรื่องเล็กน้อย เป็นคนมีเมตตาบารมีสูง เป็นชู้กับเมียเขาส่งเดช ตายจากความเป็นคนก็ไปลงนรก จากนรกก็มาเป็นเปรต จากเป็นเปรตก็เป็นอสุรกาย จากอสุรกายเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์เดรัจฉานถูกทำลายเพศ ถูกทรมานร้อยชาติ เกิดมาเป็นคนก็เป็นบัณเฑาะก์ ต้องถูกทำลายเพศอีกประมาณร้อยชาติ ต่อมาก็เป็นกระเทยอีกประมาณร้อยชาติ จึงมาเป็นคนเป็นผู้หญิง
จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๑๕๓

เจ้ากรรมนายเวร โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เจ้ากรรมนายเวร
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

..เจ้ากรรมนายเวร หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไว้กับคนและสัตว์ในอดีตชาติก็ดี ในชาติปัจจุบันก็ดี อย่างคนที่เราฆ่าเขาบ้าง เราทำร้ายเขาบ้าง เขาอาจจะไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมแล้ว ถ้าเป็นเทวดาเขาไม่สนใจแล้ว แต่ไอ้ตัวบาปที่เราทำไว้ อย่างคนที่ไปขโมยของเขา เจ้าของเขาไม่ติดใจแต่ตำรวจมีหน้าที่ตามไม่ใช่อยากตาม แต่กฎหมายให้ตาม

ฉะนั้น กรรมหรือเวรตัวนี้คือกฎหมาย ถ้าหากปฏิบัติในขั้น สุกขวิปัสสโก ก็จะบอกว่าไม่มีตัวตนเพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่ เตวิชโช ขึ้นไปเขาเห็น ดังเรื่องที่อาตมาเล่าให้ฟังประกอบเรื่องนี้

เมื่อ พ.ศ. 2517 คืนหนึ่งอาตมาเจริญพระกรรมฐานเสร็จ ก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ขณะที่อุทิศส่วนกุศลก็มายืนกันมากแต่ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร เป็นคนมาโมทนาบุญ พอเขาโมทนากันเสร็จ ก็มีชายคนหนึ่งคลานเข้ามา ถือขวานเล่มใหญ่

พอเข้ามาใกล้ก็บอกว่า "ผมกับท่านหมดเรื่องกัน"
อาตมาก็ถามว่า "หมดเรื่องอะไร"
เขาก็บอกว่า "หมดเรื่องที่จะต้องติดตามจองล้างจองผลาญกัน"
ก็ถามอีกว่า "จองล้างจองผลาญฉันทำไม"
เขาก็บอกว่า "เปล่าครับ ผมไม่ได้จองล้างจองผลาญ"
ก็ถามว่า "แล้วเข้ามาทำไม"

เขาก็เลยเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังว่า "ในอดีตนับเป็นสิบ ๆ ชาติ ท่านกับผมรบกันมาเรื่อย" เป็นคู่สงครามกัน ตัวเขาเก่งขวานทุกชาติ ส่วนอาตมาเก่งดาบสองมือทุกชาติ ถ้าเวลาให้รบตัวต่อตัว ต้องเอาคู่นี้มารบกัน ถ้าคนอื่นหัวขาด พอถึงเวลากินข้าวก็บอกว่า "พักรบก่อน กินข้าวเสร็จมารบกันใหม่" วันนั้นทั้งวันไม่มีใครเสียท่ากัน

อาตมาถามว่า "มันมีเวรกรรมอะไรกันล่ะ"
เขาบอกว่า "กฎของกรรมเขาถือว่ามี แต่เวลานี้กฎของกรรมสลายตัวแล้ว"
ก็เลยถามว่า "เวลานี้ไปเกิดที่ไหน"
เขาก็บอกว่า "ผมเป็นพรหมครับ"
ถามว่า "พรหมยังจองกรรมหรือ"
เขาตอบว่า "ผมไม่ได้จองแต่กฎของกรรมมันจอง เรื่องของกรรมหนัก ๆ ระหว่างสงครามหมดกันแค่นี้"

เราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่าง ๆ ที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไปแล้ว เราไปยับยั้งมันไม่ได้ แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีให้มีกำลังเหนือบาป บาปต่าง ๆ ก็จะตามเราไม่ทันเหมือนกัน เรียกได้ว่า เป็นการทำบุญหนีบาป ไม่ใช่ทำบุญล้างบาป ทุกคนที่เกิดมาในโลกที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี ดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหว มีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือ หนีบาป ด้วยการปฏิบัติดังนี้

1) การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ
2) ทรงศีล 5 ให้บริสุทธิ์
3) มีพรหมวิหาร 4 ให้ครบถ้วน
4) มีอิทธิบาท 4 ทรงตัว
5) มีการภาวนาให้จิตทรงตัว
6) พยายามรวบรวมบารมี 10 ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน
7) พยายามตัดสังโยชน์ 10 ประการให้หมด
8) จรณะ 15 ปฏิบัติให้ครบถ้วน

เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาแล้วนี้ได้ทั้งหมด ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดกันอีกต่อไป นั่นคือตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด.."

*คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 175 หน้า 359 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 7



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 7 "ในหลวง" อุณหภูมิพระวรกายเป็นปรกติ คณะแพทย์ ฯ ได้ตัดไหมแผลผ่าตัดและหยุดถวายพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิต หยุดถวายสารอาหารเสริมทางหลอดพระโลหิตตั้งแต่เมื่อวานนี้
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 7
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานว่า อุณหภูมิพระวรกายเป็นปรกติ พระชีพจร การหายพระทัย ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ บรรทมได้ดี คณะแพทย์ ฯ ได้ตัดไหมแผลผ่าตัดและหยุดถวายพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิต เมื่อสองวันที่แล้ว อีกทั้งพิจารณาเห็นว่าสภาวะทางโภชนาการดีขึ้นแล้ว จึงได้หยุดถวายสารอาหารเสริมทางหลอดพระโลหิตตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่เนื่องจากระบบการย่อยพระกระยาหารยังไม่เป็นปรกติ จึงต้องถวายพระกระยาหารที่ย่อยง่ายสักระยะหนึ่ง
การถวายตรวจรอยแผลผ่าตัดในวันนี้ปรากฎผลเป็นที่พอใจของคณะแพทย์ ฯ
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
17 ตุลาคม พุทธศักราช 2557

๑๖ต.ค.๕๗ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเข้าวัดทุกวันพระ ปีที่๓

วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ 
เป็นวันแรม ๘ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเมีย

ทางวัดวีระโชติธรรมาราม โดยพระครูภาวนาวีรคุณ(หลวงพ่อองอาจ) เจ้าอาวาส เจ้าสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดแห่งที่ ๒๘ ได้ริเริ่มโครงการ ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เข้าวัดทุกวันพระ โดยจัดให้มีการทำบุญทุกวันพระ ไม่ว่าจะเป็น ๘ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ตลอดระยะเวลามาถึงปีนี้ เป็นปีที่ ๓ แล้ว ซึ่งทางวัดจะจัดเตรียมอาหารไว้ให้จำนวน ๓ รายการ นอกนั้นญาติโยมจะนำมาเอง โดยมีกำหนดการดังนี้
เวลา ๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล

หมายเหตุ การจัดภัตตาหารเพลนั้น ทางวัดจะจัดไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดไว้ให้ โดยญาติโยมที่นำอาหารมา จะไปวางรวมกันและประเคน พระสงฆ์ทั้งหลาย ก็จะเดินไปอาหารของญาติโยมใส่บาตร เพื่อนำมาฉันที่อาสงส์ของตนเองและในทั้งนี้ 

หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้เปิดโอกาสให้ญาติโยมผู้ที่จะร่วมทำบุญเนื่องในวันพระ 
ตามรายการนี้
๑.ธนาคารกสิกรไทย สุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา
กองทุนค่าน้ำ - ค่าไฟวัด เลขที่ 409-2-41136-8
๒.ธนาคารไทยพานิชย์ สุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา
กองทุนพระอาพาธ เลขที่ 405-351449-2
๓.ธนาคารกรุงเทพ สุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา
กองทุนนางวิสาขา(อาหารพระ-เณร) เลขที่ 386-8-00605-1

โอนแล้วแจ้ง sms ที่เบอร์ ๐๘๗ ๙๒๒ ๔๘๘๘