วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ก่อนตายจะไปเกิดที่ไหนมีนิมิตบอก... จาก...หนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๔ โดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

...ก่อนตายจะไปเกิดที่ไหนมีนิมิตบอก...
จาก...หนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๔ โดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
"....ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ทุกวันถ้ามีความจำเป็นต้องทำบาป อย่างพวกปลูกผักปลูกหญ้านี่ เวลาที่ทำแล้วกลับมาบูชาพระลืมบาป ทิ้งบาปเสีย
...ตั้งใจภาวนา พุทโธ บ้าง สัมมาอรหัง บ้าง อะไรก็ได้ตามชอบใจ
พอถึง เวลาบูชาพระ ก็ นึกถึงเฉพาะพระ เวลาเราจะหลับนึกถึงเฉพาะพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ตั้งใจไว้เลยว่าเราจะไปนิพพาน ถ้าชาตินี้ตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น แล้วภาวนาว่า พุทโธ จับลมหายใจเข้าให้หลับไป
...พอตื่นขึ้นมาใหม่ก็ตั้งใจเฉพาะภาวนาว่าพุทโธ เราจะไปนิพพาน
เอาแค่นี้บรรดาพุทธบริษัท ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนทำได้จริง คำว่าทำได้จริงก็หมายความว่า เวลาเข้าบ้านปั๊บ ถึงเวลาบูชาพระ จิตต้องไม่นึกถึงบาป
....แล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ ตั้งใจไปนิพพาน พอตื่นขึ้นมาปั๊บจิตก็นึกถึงพระนิพพานขึ้นมาทันที ภาวนาว่า พุทโธ อย่างนี้จิตเป็น ฌาน ถ้าจิตเป็นฌานอย่างนี้ทุกคน สังเกตเวลาตาย กำลังบารมียิ่งมีความสำคัญ
...ถ้าบารมีของเรายังอ่อนถ้าเวลาตายเห็นกองไฟ มีความสุข เพราะอะไรรู้ไหม ปลาจะสุกได้เพราะไฟใช่ไหม นั่นลงนรกแน่นอน
...ถ้าเห็นป่าจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
...เห็นก้อนเนื้อไปเกิดเป็นมนุษย์ ภาพเกิดก่อนจะตายนะ
...ทีนี้ถ้าเราเป็นคนมีบุญ เมื่อมันจะตายจริง ๆ ถึงแม้จะมีบุญน้อย เรานึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึง พุทโธ ไว้ ขณะนั้นถึงแม้จะมีทุกขเวทนาก็ตามใจแต่ว่าตอนต้นเรานึกถึง พุทโธ ไว้ ก่อนจะตายประมาณ ๓ วัน จะมีรถทิพย์มารับพร้อมกับเทวดานางฟ้าแวดล้อม ถ้าเราเห็นเทวดานางฟ้าอยู่ข้างหน้า พรหมอยู่ตรงกลาง พระอรหันต์อยู่ข้างหลัง เราก็เกิดบนสวรรค์
...ถ้าเราเห็นพรหมอยู่ข้างหน้า พระอรหันต์อยู่ตรงกลาง นางฟ้าเทวดาอยู่เบื้องหลัง เราไปเกิดเป็นพรหม
...ถ้าเราเห็นพระพุทธเจ้าอยู่แถวหน้า พระพุทธเจ้าอยู่แถวหน้า นั่นเราไปนิพพานแน่..."

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

ตำรายารักษามะเร็ง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ตำรายารักษามะเร็ง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
ประกอบด้วยแห้วหมู ขมิ้นชัน ปูนกินหมาก เป็นตำรับยาหมอชีวกโกมารภัจ สูตรนี้เอามะเร็งเบาหวานอยู่
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่ยังไม่ บวช หลังจากบวชแล้วก็ได้เป็นผู้ช่วยหลวงปู่ปาน รักษาคนไข้ และได้เรียนวิชาแพทย์จากท่านที่มีอทิสสมานกายอีกมาก วิชาเหล่านี้ต่อมาจากท่านละทิ้งหมด จนกระทั้งเริ่มรับลูกศิษย์ และเห็นทุกขเวทนาของลูกศิษย์บางคน จึงได้บอกสูตรยาต่าง ๆ ให้ รายละเอียดมีดังนี้
สูตรยาแก้โรคมะเร็งและโรคอักเสบภายในต่างๆ
สูตรตัวยามีดังนี้ ขมิ้นชัน ๑ กำมือ กับหญ้าแพรก ๑ กำมือ โขลกให้ละเอียดคั้นกับน้ำปูนใส (ปูนกินกับหมาก) แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
วิธีใช้ รับประทานครั้งละประมาณ ๑ ถ้วยชา หรือประมาณ ๓๐ ซี.ซี รับประทานวันละ ๑ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า ๓๐ นาที หรือ ๑๕ นาที เป็นอย่างน้อย
รักษาโรคมะเร็ง และโรคอักเสบต่าง ๆได้ทั้งหมด เช่น โรคกระเพาะ โรคลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ ไตอักเสบ ฯ ล ฯ ถ้าโรคเบาหวาน ขณะที่กินยา ห้ามกินกะปิกับของแสลง คือของหวานในช่วงกินยา ๓ วันหาย
ประวัติของยานี้หลวงพ่อเล่าให้ฟัง เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๘ ยานี้ท่านหมอ โกมารภัจมาบอกหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า
“ ยานี้คือยารักษาโรคมะเร็ง โรคเบาหวานเพียงแค่พื้น ๆ โรคกระเพาะ โรคตับนี้รักษาง่าย ท่านบอกว่า แต่อย่าไปรับรองชาวบ้านเขานะ ห้ามรับรองชาวบ้านเขา ฝีในท้องกิน ๓ ระยะ ๆ ๓ วัน เว้น ๗ วันหาย บอกว่าถ้าหัวฝีแตกยิ่งดีใหญ่ โรคไต ๓ ถ้วยหายโรคอักเสบทั้งหมดรักษาได้ทุกอย่าง โรคเบาหวานห้ามกินกะปิ และของหวานในช่วงเวลาที่กินยา คนไข้คนไหนไม่เว้นของแสลง ไม่ควรสงสาร เพราะว่าตัวเขาเองยังไม่รัก แล้วเราจะไปรักทำไมต้องถือคตินี้นะ
ประวัติ ความเป็นมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ตอนนั้นอยู่ชัยนาท คุณสมศรี เธอเป็นโรคมะเร็งในมดลูก รักษาตัวมาเป็นเดือนหมดเงินเป็นหมื่น มะเร็งระยะสองไม่หาย เธอมาปรารภอาการป่วยให้ฟัง ยาฉันก็ไม่มี ฉันไม่รู้จะไปหาที่ไหน นั่งนึกถึง ท่านโกมารภัจ ท่านก็มาท่านบอกให้แม่มันไป ตลาดโพธิ์นางดำ ไปถามหมอโบราณที่นั่น หมอชื่ออะไร รูปร่างอย่างไร ท่านก็ไม่บอก บอกไปเถอะไปเจอใครเขาบอกยาองเขารักษาหาย ให้เอามารักษาจะหาย ไม่ใหม่ประวัติความเป็นมาจำไว้นะ
แล้ว แกก็ไปหาทันที ไปรอลงเรือที่ ประตูน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ก็ไปรอลงเรือ
ไอ้ท่าเรือก็มีผู้ชายคนหนึ่งผอมโปร่งผิวขาว แต่งตัวเรียบร้อยไม่พูดไม่จากับใคร
นั่งเฉยหัว ก็ขาวโพลน นั่งเฉยคอยเรือเกือบชั่วโมงไม่พูดกับใครเลย
เวลาลงเรือหางยาวบังเอิญ นั่งคู่กันไป เรือวิ่งไปประมาณ ๑ กิโลเมตร แกหันมาถามว่าหนูจะไปไหน บอกจะไป ตลาดโพธิ์นางดำ ถามไปทำไม บอกลูกสาวประจำเดือนออกไม่หยุด หมอบอกเป็นมะเร็งที่มดลูก ชายคนนั้น แกถามต่อไปว่า แล้วนี่จะไปไหน บอกไปหาหมอ ถามหมอชื่ออะไร แกบอกไม่รู้ บอกไม่รู้ไปอย่างไร
บอกว่าพระท่านบอกถ้าไปเจอหมอที่ โพธิ์นางดำ ท่านเป็นหมอโบราณ
ถ้าท่านบอกยารักษาหายให้นำมาเลย บอกถ้าอย่างนั้นไม่ต้องไป ยาที่ฉันมีพอเรือหางยางสวนมาแกกวักมือบอกกลับได้
แล้ว ปรากฏว่าวันหลังไปถามเรือหางยาวคนนั้นว่า คนรูปร่างแบบนั้นขึ้นที่ไหน ไอ้เรือหางยาวเขารู้จักกันบอกเวลานั่งมาเห็น เลาขึ้นไม่เห็นตอนขึ้นเขาเก็บสตางค์ ไม่เห็นโดดน้ำไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แก่ทำกินไม่ถึงถ้วยชา แคครึ่งถ้วยชา ถ้วยเดียวหาย แต่ท่านบอกว่าให้กิน ๓ ถ้วย แล้วจะหายสนิทมะเร็งนี่นะ ไอ้โรคเบาหวานเรื่องเล็ก ๆ เล็ดหมดเลย เบาหวานขนาดม้า มะเร็งขนาดช้าง ท่านเลยบอกว่าหาย ไอ้โรควัณโรคนานหน่อยนะ กิน ๓ วันติด ๆ กัน เว้น ไป ๗ วัน ๓ ระยะ เท่ากับกิน ๙ ถ้วยหาย
ท่านก็เลยสรุปอักเสบทั้งหมดใช้ได้หมดเลย เดี๋ยวลองถามท่านกินบ่อย ๆ จะได้ไหม ท่านบอกว่าป้องกันโรคต่าง ๆ ปีละงวด ๓ ถ้วย กิน ๓ วัน ถ้ากินป้องกันร่างกายทรุดโทรม ๖ เดือนงวด จะไปกินเร็วกว่านั้นไม่ได้ ๖ เดือนกิน ๓ ถ้วย
แต่ท่านบอกว่าอย่าไปรับรองใครเขานะ บอกเราเคยกินหายมาแล้ว เราอย่าไปรับรองผล ถ้าบังเอิญมันเป็นระยะปลาย และคนนั้นจะต้องตายมีอยู่ อย่าไปรับรองเขา แล้วท่านบอกว่า หญ้าแพรกทำให้เย็น ขมิ้นรักษา และน้ำปูนใสทำให้อย่างแห้งเร็ว
หมายเหตุ
ก่อนกินยานี้ให้นำดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ ขอพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่วยให้โรคหายไปจากร่างกาย ขอพรท่านโกมารภัจเจ้าของยา ขอให้ท่านช่วยให้ยานี้มีฤทธิ์ทำลายโรคให้หมดไป ขอพรท่านแม่ศรีช่วยด้วย ขอให้โรคทั้งหลายสลายตัวไปให้หมด นับตั้งแต่กินยานี้เข้าไปแล้ว ยานี้ใช้ได้ผลเฉพาะบุคคลที่มีความเชื่อในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เท่านั้น
หมายเหตุ 
สูตรบนที่ใช้แห้วหมู มะเร็งกับเบาหวาน ส่วนหญ้าแพรกคลอบคลุมหลายโรค มีเรื่องกระเพราะ ตับ ไต เข้ามาด้วย

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

เรื่อง ของสงฆ์ต้องระวัง จาก : หนังสือ พระราชพรหมยานโอวาท หน้า ๕ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน


เรื่อง ของสงฆ์ต้องระวัง
จาก : หนังสือ พระราชพรหมยานโอวาท หน้า ๕
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

การนำของสงฆ์ไปเป็นทรัพย์ส่วนตัวนั้นต้องระวัง
แม้แต่เศษกระเบื้องแตกๆ เล็กๆ ชิ้นเดียวหรือ
ดอกไม้ดอกเล็กๆ ชิ้นเดียว ใบไม้ที่ไร้ค่าจริงๆ แล้ว
ใบเดียว ท่านนำไปโดยที่สงฆ์ไม่ได้อนุญาติ
ก็ถือว่าเป็นการขโมยของสงฆ์
ผลที่จะพึงได้รับก็คือ อเวจีมหานรก

ฉะนั้นขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน
ถ้าเป็นลูกเป็นหลานพระ เป็นญาติของพระ
เป็นผู้ที่รับมรดกจากพระ
เมื่อพระตายแล้ว บอกให้พระที่มีส่วนสำคัญของ
ท่านมอบเสียก่อนตาย
ถ้ายังไม่สามารถจะยกให้ไปได้ ให้ทำพินัยกรรม
แล้วก็มีฆราวาสและมีพระเป็นพยาน
ว่าของส่วนนี้เมื่อท่านตายไปแล้วเป็นสมบัติที่บุคคล
นั้นจะพึงได้ บุคคลนี้จะพึงได้
ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ถ้าพระตายไปก่อนแล้วท่านนำ
เอาไปบ้านของท่าน อย่าลืมว่าโทษลักของสงฆ์
เป็นของไม่เล็กเลย ความจริงเราได้มาเราก็ตาย
เราไม่ได้มาเราก็ตาย
ทางที่ดีก็ควรจะตายแบบประเภทที่เรียกว่าไปอยู่
ในแดนที่มีความสุขดีกว่า
ถ้านำของสงฆ์ไป อย่างน้อยท่านก็ลงอเวจีแน่นอน
ไม่มีทางพ้น

ทีนี้ของที่จะพึงรับได้ก็ต้องดูว่า
ของที่พระท่านให้ไว้เป็นทรัพย์สินมาจากอะไร
เป็นทรัพย์สินดังเดิมจากฆราวาสหรือว่าเขาถวาย
เมื่อสมัยเป็นพระ
ถ้าเป็นทรัพย์สินที่มีญาติโยมพุทธบริษัทที่มีศรัทธา
ถวายมาในระหว่างเป็นพระ
อย่ารับเลยบรรดาท่านพุทธบริษัท
ถ้าของที่เขาถวายมานั้นระหว่างเป็นพระแล้ว
จะถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของพระองค์นั้นไม่ได้ แต่ว่าทรัพย์สินทั้งหลายเหล่านั้นจะโอนให้ญาติ
ไม่ได้แน่นอน

‪#‎กองทุนเพื่อพระนิพพานชมรมคณะลูกหลานศิษย์หลวงพ่อวัดวีระโชติฯ‬