เรียนเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างพระประจำตระกูล ประดิษฐานไว้ประจำ ณ อุโบสถแก้วกลางน้ำ วัดวีระโชติธรรมาราม

เรียนเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างพระประจำตระกูล ประดิษฐานไว้ประจำ 

ณ อุโบสถแก้วกลางน้ำ วัดวีระโชติธรรมาราม

องค์ละ ๓๐,๐๐๐ บาท หรือตามกำลังศรัทธา

อนุโมทนาคุณปุณยลักษณ์-นาวาอากาศโทเจนณรงค์ วงศ์พิมล และครอบครัว อุทิศให้ บิดา มารดา และเจ้ากรรมนายเวร ถวายปัจจัย ๓๐,๐๐๐ บาท สร้างองค์ปฐมประดิษฐานไว้บนอุโบสถแก้วกลางน้ำ ขออนุโมทนา

เป็นเจ้าภาพสร้างพระประจำตระกูล องค์ละ ๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำสมเด็จองค์ปฐมประดิษฐานไว้บนอุโบสถแก้วกลางน้ำ สร้างไว้ภายในรอบอุโบสถ

ติดต่อ พระเจ้าหน้าที่ 0849773339,หลวงพี่ต้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 0879224888

ติดต่อสอบถามโทร. 084 977 3339,087 922 4888 
หรือทำบุญโอนผ่านบัญชีธนาคารของทางวัด

1 ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสุวินทวงศ์พลาซ่า ฉะเชิงเทรา 
ชื่อบัญชี กองทุนสร้างอุโบสถกรุงไทย(วัดวีระโชติธรรมาราม) เลขที่ 229-0-33490-1
2 ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนมหาจักรพรรดิ์ ฉะเชิงเทรา
ชื่อบัญชี กองทุนสร้างอุโบสถกรุงไทย(วัดวีระโชติธรรมาราม) เลขที่ 981-0-74933-3
3.ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา 
ชื่อบัญชี กองทุนสร้างอุโบสถกสิกรไทย เลขที่ 409-2-53103-7
4.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุวินทวงศ์
ชื่อบัญชี วัดวีระโชติธรรมาราม เลขที่ 386-8-00323-1
5.ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสุวินทวงศ์
ชื่อบัญชี กองทุนวัดวีระโชติธรรมาราม เลขที่ 404-443455-8

(ถ้าโอนแล้วแจ้ง SMS ได้ที่เบอร์ 087 922 4888)

ความระมัดระวัง : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

ความระมัดระวัง
“ความระมัดระวัง”
เป็นธรรมประการหนึ่ง
ที่ พระพุทธเจ้า ทรงสอน
ให้ทุกคนมีความระมัดระวัง
ระวังในทุกกรณี ในทุกเรื่อง

ความระมัดระวัง : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ
ที่มา : จากหนังสือ “ธรรมะให้ลูกดี” สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)

วันวิสาขบูชา ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข อบอุ่นแก่ชาวโลก : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

วันวิสาขบูชา เป็นวันที่มีความสำคัญมากสำหรับผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา
ที่ได้พร้อมใจกันบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มีความสำคัญสูงส่งอย่างไร วันวิสาขบูชาก็มีความสูงส่งอย่างนั้น
เพราะวันวิสาขบูชาเนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง 3 กาล คือ
กาลที่พระองค์ประสูติ, ตรัสรู้, และเสด็จขันธปรินิพพาน ที่สำคัญยิ่งก็คือ
การตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข
อบอุ่นแก่ชาวโลกนับตั้งแต่วันที่ได้ตรัสรู้ และได้ทรงประกาศพระศาสนาให้คนทั้งหลาย
ได้รับทราบว่า สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้นั้นคืออะไร ซึ่งผู้นับถือพระพุทธศาสนาโดยทั่วไปทราบกันอยู่แล้วความสำคัญของวันวิสาขบูชาเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ของผู้นับถือพระพุทธศาสนา
แต่มาบัดนี้ องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ
เป็นวันสำคัญของโลก ที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศเช่นนี้ เป็นการประกาศให้โลก
ได้รับทราบว่า การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านั้น เป็นประโยชน์แก่โลก ไม่ใช่เป็นประโยชน์
เฉพาะผู้นับถือพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่จะเป็นประโยชน์แค่ไหน เพียงไร หรือแก่ผู้ใด
สำคัญอยู่ที่แต่ละผู้คน ที่จะพึงนำไปพิจารณาและปฏิบัติให้เกิดเป็นความสงบ ร่มเย็น
อบอุ่นแก่ตนเอง จึงมีความสำคัญสำหรับคนในโลกทั้งหมดว่าจะสามารถนำเอาพระธรรม
คำสอนที่พระองค์ตรัสรู้นั้น น้อมนำไปพิจารณาปฏิบัติได้อย่างไร จะเป็นธรรมขั้นสูงสุด
หรือขั้นธรรมดาก็ตาม ล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น จะขอกล่าวเป็นตัวอย่าง
เช่น เมตตาธรรม พระพุทธองค์ทรงทราบดีว่า เมตตาธรรม มีความสำคัญแก่ชาวโลก
แต่ว่าชาวโลกก็ไม่สามารถที่จะรับเมตตาธรรมได้ทุกคน พระองค์ตรัสไว้เป็นกลางๆ
เพื่อให้ทุกคนได้ทราบ แล้วนำไปปฏิบัติสร้างเมตตาธรรม เริ่มต้นจากการรู้จักรักชีวิตของตนเองว่า
ชีวิตตนเองน่ารักอย่างไรและแผ่กว้างออกไปถึงชีวิตของคนที่เนื่องด้วยชีวิตของตน
จนกระทั่งชีวิตของคนโดยทั่วๆไป เท่าที่กล่าวนี้ก็พอที่จะทราบได้แล้วว่า
เมตตาธรรมอย่างเดียวเท่านั้น ก็จะสร้างความร่มเย็น
อบอุ่นใจแก่ผู้ปฏิบัติอย่างไร โดยเฉพาะปีนี้ทางรัฐบาลได้จัดงานขึ้นเป็นพิเศษ
เป็นงานวันวิสาขบูชา เนื่องด้วยวันสำคัญสากลของสหประชาชาตินั้นเอง
โดยนิมนต์พระสงฆ์ที่เป็นประมุขของประเทศต่างๆ ทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายาน
มาร่วมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อที่จะได้นำเอาหลักพระธรรมคำสอนแผ่กระจายออกไป
แก่ชาวโลก ในระหว่างที่โลกกำลังรุ่มร้อนด้วยปัญหาต่างๆ ซึ่งนับได้ว่ารัฐบาล
เห็นความสำคัญของวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ
ที่เนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และในขณะเดียวกัน ปีนี้ เป็นปีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา จะได้ถวายเป็นพระราชกุศล
แด่พระองค์ด้วย ในฐานะที่พระองค์ทรงนับถือพระพุทธศาสนา ก่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้นไปอีก
ในโอกาสนี้ จึงขอให้ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาได้ยึดเอาหลักธรรมข้อใดข้อหนึ่ง ที่เห็นว่า
เหมาะสมแก่ความรู้สึกนึกคิดของตน แล้วน้อมนำไปปฏิบัติ เช่นเมตตาธรรม เป็นต้น
เพื่อที่จะให้เกิดผลแก่ตนเองและแผ่กว้างออกไปแก่คนอื่น และขอให้ปฏิบัติเป็นประจำ
ไม่ใช่ปฏิบัติเฉพาะแต่เพียงวันวิสาขบูชาเท่านั้น พร้อมทั้งน้อมใจ
บูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ผู้ทรงประทานความสงบ ร่มเย็น
อบอุ่นให้แก่ชาวโลก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง
ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับผลแห่งการปฏบัติทั้งในส่วนแห่งการปฏิบัติธรรม
ตามที่พระองค์ทรงสอน ทั้งในส่วนแห่งการบูชา เนื่องในวันวิสาขบูชา
ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความผาสุขสวัสดี สงบ ร่มเย็น อบอุ่น สมปราถนา โดยทั่วกัน

วันวิสาขบูชา ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข อบอุ่นแก่ชาวโลก
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

ที่มา : http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9470000001162

ผู้รู้พระคุณ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

ผู้รู้พระคุณ
ในที่ใดมีทั้ง“ผู้มีพระคุณ” และ “ผู้รู้พระคุณ”ในที่นั้นจะมีความรัก ความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ร่มเย็นเป็นสุข
“พระคุณ” ประจักษ์อยู่ในจิตตราบใด ความเป็น
“ผู้รู้พระคุณ” ก็เป็นมงคล ประจำชีวิตของลูกหลานอยู่ตราบนั้น

ผู้รู้พระคุณ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

" ฉะนั้น การปฏิบัติจริงๆ ให้มุ่งนิพพาน ไอ้การมุ่งนิพพานนี่เราจะถึงชาตินี้หรือไม่ถึงก็ช่าง ถ้าจิตใจยังมุ่งนิพพานอยู่ จิตใจก็ต้องประกอบความดี ต้องคิดดี ต้องทำดี ต้องพูดดี ต้องปรับปรุงตัวเอง มันค่อยๆ ลดลงไปนะไอ้ความชั่ว อย่างน้อยสุด ถ้าเรามุ่งนิพพานจริง ถ้าเราไปนิพพานไม่ได้ เราก็ห่างนรกไปอยู่สวรรค์อย่างต่ำ
แต่ถ้ากำลังอย่างกลางก็ไปอยู่พรหม ถ้ากำลังเต็มเมื่อไหร่ก็ไปนิพพานเมื่อนั้น ที่ท่านสอนให้มุ่งนิพพาน ก็เพื่อว่าหนีอบายภูมิ "
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ
คัดจาก : หนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๓๙๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้าที่ ๖๖

น้อมถวายเป็นอาจาริยบูชา ครบ ๒๒ ปี มรณภาพหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (เพลงคำหวาน)

น้อมถวายเป็นอาจาริยบูชา

งานบำเพ็ญกุศลครบ ๒๒ ปี
แห่งการมรณภาพพระเดชพระคุณ
หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ
วัดท่าซุง ประจำปีพ.ศ.๒๕๕๗

โดยพระครูภาวนาวีรคุณ คณะสงฆ์
คณะศิษย์ วัดวีระโชติธรรมาราม
ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง
จ.ฉะเชิงเทรา
โทร.๐๘๗ ๙๒๒ ๔๘๘๘
https://www.youtube.com/watch?v=ib_4TrqWIXQ

ปัญญา : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ

ปัญญา
ทุกคนเกิดมาล้วนมี “ปัญญา” กันทั้งนั้น
แต่ว่า.... จะประคับประคองปัญญาของตน
ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องดีงาม เพื่อชีวิตดีงามได้อย่างไร....
จึงควรที่จะเตือนตนเองอยู่เสมอว่า
“จะทำ จะพูด หรือจะคิด ต้องใ้้ช้ปัญญา ต้องมีเหตุผล”

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) วัดสระเกศ
ที่มา : จากหนังสือ”ธรรมะให้ลูกดี” สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)