วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม ๑ ตอนที่ ๔๘. พระครูสุวรรณพิทักษ์บรรพต โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม ๑ 
ตอนที่ ๔๘. พระครูสุวรรณพิทักษ์บรรพต
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

อันนี้ เรามาเลี้ยวเข้าจังหวัดพระนครเสียหน่อย มากรุงเทพฯ นะ ก็ดีเข้ากรุงเทพฯ กันเสียที อ้อ เรื่องของกรุงเทพฯ ยังมีพระอีกองค์หนึ่งนะ พระกรุงเทพฯ น่ะ หลวงพ่อนาค พระครูสุวรรณพิทักษ์บรรพต คณะ 11 วัดสระเกศ
พระองค์นี้หลวงพ่อปานเคารพมาก แล้วก็สรรเสริญมากว่าเป็นพระดี ท่านเคยสั่งว่าเวลาฉันตายแล้วนะ เวลามีอะไรขัดข้องก็มีหลวงพ่อพระครูสุวรรณพิทักษ์บรรพตนี่แหละพอที่จะเป็นที่พึ่งได้ ท่านสั่งไว้หลายองค์ แต่ละองค์ก็มีอายุมากๆ เกรงว่าจะตายไป องค์โน้นตายเสียแล้วจะได้อาศัยองค์นี้ ท่านว่ายังงั้น
ทีนี้ตอนที่หลวงพ่อปานตายแล้ว อาตมาก็ไปสมัสการท่าน องค์นี้เรื่องไม่มาก หูท่านหนัก เวลาพูดก็ต้องพูดดังๆ ไอ้เราเป็นคนเคารพคนแก่อยู่แล้ว จะพูดดังก็เกรงใจ เกรงจะหาว่าเป็นการเหยียดหยามคนแก่ แต่ท่านก็เกณฑ์ให้พูดดังๆ ถ้าพูดไม่ดังท่านก็ไม่ได้ยิน เวลาไปหาท่าน ปรากฏว่าอายุ 93 ปีแล้ว
ครั้งแรกท่านถามก่อนว่ามาจากไหน ก็กราบเรียนท่านว่ามาจากวัดบางนมโคขอรับ ความจริงตอนนั้นเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว เกล้ากระผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน ท่านก็ยกมือขึ้นป้อง ร้องว่า อ๋อ ไอ้ลูกศิษย์ท่านปานเรอะ ไอ้ลิงดำใช่ไหม เอาเข้าแล้ว ไม่รู้ว่ารู้จักยังไง เลยกราบเรียนถามท่านว่ารู้จักยังไงขอรับ ตอบว่าข้ารู้ อาจารย์แกเขาเคยบอกให้ฟัง เรื่องนี้เล่าไว้ตอนต้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะที่พูดนี่ไม่ได้เขียนก็ไม่ทราบว่าพูดแล้วหรือยัง ตอนนี้ก็เลยขอย่อเรื่องเอาสั้นๆ เป็นอันว่าไปคราวนั้นก็เอาชื่อของอาจารย์ทั้งหลายที่เก่งในทางไสยศาสตร์ ลงเลขลงยันต์ คงกระพันชาตรี เหนียวแบบนั้นเหนียวแบบนี้ มีลูกศิษย์ลูกหามากไปถวายท่าน บอกว่าพระทั้งหมดนี้ 10 องค์กว่าๆ เวลานี้ตายแล้วขอรับ เกล้ากระผมอยากทราบว่า พวกนี้ตายแล้ว ไปสวรรค์ ไปพรหม ไปนิพพาน หรือไปนรก
ท่านบอก เออดีเหมือนกันว่ะ ถามงี้ก็ดี ไม่ค่อยมีใครมันถามหรอกว่าไอ้นรกนี่ข้าไปเที่ยวเสมอ แต่อเวจีไม่ได้ลงสักที เห็นไฟมันพลุ่งๆ ขึ้นมา อยากจะไปดูให้เห็นพอจะไปก็พอดีสว่าง เขาไปตามบอกสว่างเสียแล้ว
นี่เป็นหน้าที่ของเทวดาอิน เทวดาอินแกอยู่ที่ทางสี่แพร่ง ทางไปนรก ไปพรหม ไปสวรรค์ แล้วก็มามนุษย์ แกมีหน้าที่คอยตามพระหรือฆราวาสที่ได้ฌานที่เพลินไป ไม่กลับตามเวลา ตามให้กลับว่าเวลาจะสว่าง
ท่านได้รับบัญชีไว้แล้ว ท่านก็บอกเอายังงี้นะ พรุ่งนี้มาใหม่ข้าจะบอกให้ฟังว่า เขาจะไปทางไหนกัน ก็เลยกลับ เมื่อกลับมาแล้ววันรุ่งขึ้นเช้าก็ไปใหม่ พอไปแล้ว ท่านก็รายงานให้ทราบ ท่านบอกว่า เออ อาจารย์พวกนี้ว่ะ เมื่อคืนนี้ข้าไปดูมาแล้ว ไม่เห็นมีนี่บนสวรรค์ น่ากลัวจะดันไปนรกหมดแล้ว ทั้งนี้เพราะอะไร ท่านก็เลยบอกว่า เพราะเจตนาเขาไม่เหมือนเรา เวลาเขาให้ของใครเขาก็บอกว่า นี่เหนียวยังงั้น ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก แทงไม่เข้า ตีไม่แตก ไปยุให้คนมันทำชั่ว ไปยุให้คนเป็นนักเลง เมื่อคนมันหนังเหนียวแล้วมันก็ไปข่มเหงชาวบ้านเขา ไปปล้นเขา ท่านอาจารย์ก็กลายเป็นต้นตอ ก็เป็นผู้อำนวยการกระทำความชั่ว แล้วเจตนาที่แจกของเหล่านั้นก็เป็นเตนาชั่ว คือตั้งราคาเป็นสำคัญ ของชิ้นนั้นราคาเท่านั้น ของชิ้นนี้ราคาเท่านี้ เพราะมันเหนียว มันคงกระพัน ลงทุนบาทหนึ่งก็เรียกราคาเป็นร้อยเป็นพัน แบบนี้ เจตนาก็ไม่ใช่เจตนาของพระ ไม่ได้ปฏิบัติตนอย่างพระ
ขณะที่บวชอยู่ก็จิตไม่เป็นพระ นี่มันเป็นทางลงนรกลงไปแล้ว พอจิตไม่เป็นพระเท่านั้นมันก็ลงนรกแล้ว แล้วต่อมาก็มาเป็นหัวหน้าโจรเขาอีก แจกของเหนียว พอเจ้าพวกนั้นเป็นนักเลงไปข่มเหงชาวบ้าน เพราะอาศัยหนังเหนียวจากอาจารย์ให้ของ ไปปล้นสะดมเขา ไปแย่งชิงวิ่งราว เพราะอาศัยมีความเชื่อมั่นของดีจากอาจารย์ เป็นอันว่าท่านอาจารย์ก็มีส่วนร่วมลงนรกเป็นวาระที่ 2 เรียกว่ามีสมบัติ 2 ชิ้น พอที่จะนำนรกไปแบบสบายๆ เป็นอันว่าเรื่องราวของท่านสุวรรณพิทักษ์บรรพตก็ขอย่อไว้แค่นี้นะ

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

"อุปฆาตกรรม" โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

"อุปฆาตกรรม" โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ


หลวงพ่อ ฤาษีฯ ตอบปัญหา เรื่อง "อุปฆาตกรรม" 


ผู้ถาม : " หลวงพ่อคะ อุปฆาตกรรม หมายความว่าอย่างไรคะ ... ? "

หลวงพ่อ : " คำว่า "อุปฆาตกรรม" หมายถึงว่า กรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิต คือ มันยังไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ ๖๐ ปีตามอายุขัย แต่อายุ ๓๐ - ๔๐ ปี กรรมที่เป็นอกุศลกรรม คือ ที่เราทำบาปไว้แต่ชาติก่อนด้วยจากปาณาติบาตมาตัดชีวิตเสียก่อน "

ผู้ถาม : " มีวิธีที่จะพ้นกรรมประเภทนี้ไหมคะ อย่างเช่นถ้าเราปล่อยปลา หรือ สะเดาะเคราะห์ อะไรพวกนี้แหละค่ะ ... ? "

หลวงพ่อ :" ปล่อยปลานี่เขาถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ เราปล่อยสัตว์ให้รอดนี่มันจะกันได้ แต่ที่ให้หมอดูไป "สะเดาะเคราะห์" หมอบอกว่าต้องเสียเท่านั้นเท่านี้ พอ "สะเดาะเคราะห์" เสร็จหมอหมดเคราะห์ไป ๓-๔ หมื่น คนที่สะเดาะเคราะห์เพิ่มเคราะห์ไป ๓-๔ หมื่น เป็นไง ... เราก็เอาแบบของเรานั่นแหละ ได้ผลแน่นอนกว่า "

ผู้ถาม : " ปล่อยปลาอะไรดีคะ ... ? " 

หลวงพ่อ :" เขาไม่จำกัดว่าปลาอะไร แต่ว่าปลานั้นจะมันต้องไม่ตาย ต้องเป็นปลาที่มีชีวิต "

ผู้ถาม :" บางคนเขาก็บอกว่า ปลาที่เราปล่อยแล้วจะทานไม่ได้ใช่ไหมคะ ... ? " 

หลวงพ่อ :" ถ้าปลานั้นมันจะต้องตาย เราก็เอาไปปล่อยเพื่อเป็นการช่วยชีวิต จะเป็นปลาอะไรก็ตาม สัตว์อะไรก็ตาม เราปล่อยให้มันรอดชีวิตเป็นเมตตาจิตใช่ไหม จะต้องไปนั่งเลือกทำไม บางคนเลือกปล่อยปลานั้นปลานี่ บางทีปลาไม่ค่อยจะตายก็ปล่อย "

ผู้ถาม :" แล้วเราจะปล่อยแทนคนอื่นได้ไหม... ? " 

หลวงพ่อ :" ได้ ... แต่ว่าเขาไม่มีผลนะ "

ผู้ถาม :" ถ้าเราปล่อยแล้ว เราอุทิศส่วนกุศลได้ไหมคะ ... ? " 

หลวงพ่อ :" ถ้าเขายังไม่ตาย ไปอุทิศส่วนกุศลเขาจะได้รับยังไงล่ะ เราเอาแบบนี้ซิ เราก็เอาปลาไปให้เขาซิ บอกว่าตั้งใจปล่อยปลานะ ฉันหาปลามาปล่อยให้ปลามันรอดชีวิต เท่านั้นแหละถ้าเขาอนุโมทนา คือ ยินดีด้วยความเต็มใจ เป็นอันว่าเราปล่อยสัตว์ด้วยมีจิตเมตตา คิดจะช่วยให้รอดพ้นจากการถูกขังก็ดี เห็นว่ามันจะต้องตายก็ดี อันนี้เป็นของดี เป็นการช่วยชีวิตเขา และเราก็รอดพ้นจากอุปฆาตกรรมด้วย "

ที่มา : หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1

ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ถ้าตายไปแล้วจะไปนรกหรือสวรรค์หรือเปล่า โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ถ้าตายไปแล้วจะไปนรกหรือสวรรค์หรือเปล่า
โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน


ผู้ถาม ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ถ้าตายไปแล้วจะไปนรกหรือสวรรค์หรือเปล่าครับ…?
หลวงพ่อ ไปทุกศาสนานะคุณ คือว่าสวรรค์หรือนรกนี่ก็มีเหมือนกัน เรือนจำนี่เขาขังเฉพาะผู้ที่นับถือพุทธศาสนาหรือศาสนาอื่นด้วยล่ะ เขาขังทุกศาสนาใช่ไหม…นั่นฉันใด นรกหรือสวรรค์ก็เหมือนกัน ถ้าทำความชั่วก็ไปนรกแห่งเดียวกัน

ผู้ถาม ถ้าผมทำความดี ผมจะได้เกิดมาในศาสนาพุทธไหมครับ…?
หลวงพ่อ ถ้าคุณทำความดี อีกกี่ชาติๆ คุณก็พบศาสนาพุทธตลอด

ผู้ถาม อย่างนี้ก็หมายความว่า ศาสนาอื่นไม่ดีเท่าศาสนาพุทธซิครับ…?
หลวงพ่อ เราจะว่าเขาไม่ดีก็ไม่ได้ ศาสนาทุกศาสนาเขาดีเหมือนกันแหละ แต่ว่าคุณปฏิบัติตามแนวทางศาสนาพุทธคุณก็เกิดในเขตของศาสนาพุทธ ถ้าคุณปฏิบัติในเขตของศาสนาอื่น เพราะจิตใจมันจับอยู่ในศาสดาองค์นั้น ก็ต้องไปเกิดในศาสนานั้น นี่เราจะไปถือว่าศาสนาอื่นไม่ดีไม่ได้ ศาสดาทุกองค์เขาต้องการให้คนเป็นคนดีทั้งหมด เขาจึงได้บัญญัติกฎปฏิบัติขึ้นมา แต่ว่าถ้าจะถือคุณธรรมของศาสนากันจริงๆ แล้วละก็ของเรามีต่างกับเขาอยู่นิดหนึ่ง ที่เรามีอริยสัจ ศาสนาอื่นเขาไม่สอนด้านอริยสัจ ของเรามากกว่าเขาหน่อย จะดีกว่าหรือไม่ดีกว่า ก็เป็นเรื่องของการพิจารณาของคนนะ อาตมาเป็นพระในศาสนาพุทธ จะมายกย่องศาสนาพุทธมากเกินไปมันก็ไม่ดี ดีหรือไม่ดี พระพุทธเจ้าบอกว่า เชิญมาพิสูจน์เอง

ผู้ถาม แล้วศาสนาคิด…มีการตกนรกหรือเปล่าครับ…?
หลวงพ่อ ศาสนาคิด…ถ้าคิดดีๆ ก็ยังไม่ตกนะ คิดหรือคริสต์ ถ้ามันยังคิดอยู่ ยังไม่ตาย ตกได้ยังไง
ผู้ถาม (หัวเราะ)
หลวงพ่อ เอาแล้วไง…นี่เป็นคนไทยยังพูดไทยไม่ชัดเลย มันตกเหมือนกันไม่ว่าศาสนาไหนก็ตกเหมือนกัน เพราะว่านรกไม่ใช่ของศาสนาหนึ่ง คำว่านรก มันเป็นแดนสำหรับการลงโทษสัตว์ เพราะว่าคนที่ทำความชั่วก็ต้องไปเหมือนกันหมด

ผู้ถาม แล้วเวลาที่ไปปรากฏกายในนรก สัตว์นรกจะแตกต่างกันด้วยผิวพรรณ เป็นไทย เป็นฝรั่งไหมครับ…?
หลวงพ่อ ที่นั่นมันเป็นผิวนรกทั้งหมดรูปร่างก็เป็นรูปร่างของนรกทั้งหมด ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองไปดูซิ เอาขุมไหนก็ได้

ผู้ถาม กระผมยังไม่มีความสามารถจะฝึกได้ครับ
หลวงพ่อ ไม่ใช่…ลงไปอยู่เลย
ผู้ถาม โอ้โฮ ไม่ไหวล่ะครับ แล้วทำไมมนุษย์เราจึงมากขึ้นครับ…?
หลวงพ่อ ก็ตายแล้วเกิดใหม่นี่ ถ้าไม่เกิดมันก็ไม่มากใช่ไหม ไอ้ที่เกิดใหม่ หรือมนุษย์มากขึ้น คุณอย่าลืมว่า ไอ้พวกสัตว์นั่นก็คือมนุษย์นะ ที่ทำความชั่วไปแล้วเกิดเป็นสัตว์ เปรต เป็นอสุรกาย สัตว์นรก ทั้งหมดก็คือมนุษย์ เทวดา หรือพรหมก็มนุษย์ เพราะรักษาความดี ถ้าหมดความดีก็ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ พวกสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ถ้าหมดอำนาจความชั่วก็มาเกิดเป็นมนุษย์
ทีนี้ไอ้สัตว์ต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปทุกวันๆ นะ คุณมั่นใจหรือว่าจะไม่มาเกิดเป็นมนุษย์ เข้าใจหรือยัง…อย่าลืมนะว่า สัตว์ทุกประเภทก็คือมนุษย์ที่สร้างความชั่วนั่นเอง

ผู้ถาม ครับ…เข้าใจแล้วครับ ผมเรียนถามอีกอย่างนะครับคือว่า…เมืองนรกอยู่ที่ไหน…?
หลวงพ่อ เมืองนรก เขาก็อยู่ที่เมืองนรก เมืองนรกจะไปอยู่ที่เมืองมนุษย์ไม่ได้ คุณอยากจะไปดูไหมล่ะ?
ผู้ถาม อยากครับ
หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ซินะ ถ้าคุณเป็นคนไม่มีมานะทิฏฐิคุณถือว่าคำสอนเป็นคำสอน คุณจะยอมรับปฏิบัติตามคำแนะนำของครู ถ้าคุณอยากจะรู้จักนรก สวรรค์ พรหมโลกหรือนิพพาน ไปพิสูจน์ได้ที่วัดท่าซุง ถ้าคุณมีความมั่นใจจริงๆ ไม่เกิน ๓ วัน ไปเที่ยวได้ แต่ว่าคุณจะต้องเชื่อครูนะ ไม่ใช่จิตของคุณมีมานะทิฏฐิอย่างนี้ไม่ได้ เหมือนกับคุณมาเป็นนักเรียนนายร้อย ถ้าคุณเรียนมาจากสถาบันอื่นแล้ว แต่ทว่าคุณมาโรงเรียนนี้เขาสอนวิชาทหารคุณถือว่าไม่ใช่ ฉันเคยเรียนมาอย่างนี้ อย่างนี้คุณก็ไม่มีโอกาสจบหลักสูตรนี้ได้ ถ้าคุณต้องการฝึกอภิญญาสมาบัติคุณไปวัดท่าซุงได้ เขามีฝึกกันทุกวัน

ที่มา : หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓
(หน้า ๔-๖)

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

คำสอน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

เวลาที่สำคัญที่สุดของนักเรียนนักศึกษา คือตอนสอบไล่
เวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิตคนเรา คือ อารมณ์จิตก่อนตาย
จะไปสวรรค์ พรหม พระนิพพานหรือแดนอบายภูมิ
ก็อยู่ที่จิตก่อนตายของท่านจะผ่องใสหรือเศร้าหมอง

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

วันพระแรก แห่งปี พ.ศ.2558

วันพระแรก แห่งปี พ.ศ.2558
วันที่ 4 มกราคม 2558
ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2

สาธุ

คาถาความเป็น เศรษฐี โดยหลวงพ่อองอาจ

ใครที่อยากเป็นเศรษฐีลองดู

การเกิดเป็นชายและหญิง โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

การเกิดเป็นชายและหญิง
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ท่านยืนยันว่า ผู้หญิงถ้าต้องการเป็นผู้ชาย ถ้าทำบุญให้ทานตามธรรมดา ๆ อธิษฐานขอเกิดเป็นชายนี้ย่อมได้ ทีนี้ถ้าผู้ชายต้องการเป็นผู้หญิงมีไหม มีนะ พวกกระเทยสมัยนี้ มาจากโทษกฏของกรรมเดิม ถ้าผู้ชายต้องการเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ยาก เป็นชู้กับภรรยาเขา เรื่องเล็กน้อย เป็นคนมีเมตตาบารมีสูง เป็นชู้กับเมียเขาส่งเดช ตายจากความเป็นคนก็ไปลงนรก จากนรกก็มาเป็นเปรต จากเป็นเปรตก็เป็นอสุรกาย จากอสุรกายเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์เดรัจฉานถูกทำลายเพศ ถูกทรมานร้อยชาติ เกิดมาเป็นคนก็เป็นบัณเฑาะก์ ต้องถูกทำลายเพศอีกประมาณร้อยชาติ ต่อมาก็เป็นกระเทยอีกประมาณร้อยชาติ จึงมาเป็นคนเป็นผู้หญิง
จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๑๕๓