"อย่าคิดว่าเราดีกว่าหมา"
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ลพ. ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี)
คัดลอกบางตอนจาก หนังสือ "หลวงพ่อเล่าให้ฟังเล่ม ๒" หน้า ๕๙-๖๒
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ลพ. ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี)
คัดลอกบางตอนจาก หนังสือ "หลวงพ่อเล่าให้ฟังเล่ม ๒" หน้า ๕๙-๖๒
...แต่ความจริงพวกสัตว์ประเภทนี้นะ เวลาตายจริงๆ
มันก็ได้เปรียบเราเหมือนกัน โยม! ถ้าเป็นสุนัขที่คนเลี้ยงแล้ว
คนสงเคราะห์นี่ บาปเก่ามันเริ่มหมด พวกนี้ตายปุ๊บลงไปมี ๒ ทาง
ถ้าไม่ไปเป็นเทวดาหรือพรหม ก็เป็นมนุษย์ มันไม่ลงล่าง ได้เปรียบมากกว่าเรา
เรามาถึงขั้นเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าไม่ดีตีตั๋วลงนรกใช่ไหม ใช่ไหม
พวกนี้ชำระหนี้มาเพื่อหมด นี่เราเสียท่ามันอีกนะ ถ้าไม่ปฏิบัติดียิ่งเสียท่าหนัก หมาดันไปสวรรค์เป็นเทวดา เรากลับไปเป็นสัตว์นรกอีก แหม ..(หัวเราะ)
อ้าวนี่พูดตามความเป็นจริงนะ คือว่า คนเหยียดหยามสุนัข บางทีก็รู้สึกสลดใจนะโยม คนนี่มันไม่แน่ ตายแล้วอาจจะลงนรกได้ พวกหมานี่ไม่ลงแน่ ถ้าเขาใช้หนี้กรรมของเขายังไม่หมด เกิดเป็นหมาชาตินี้ ชาติหน้าเป็นหมาใหม่ก็ได้ ใช่ไหม
แต่ว่าหมาตัวไหนที่ชาวบ้านเลี้ยง เลี้ยงก็แบบเราเลี้ยงธรรมดานี่แหละ มีการให้กินข้าวใช่ไหมล่ะ
ถ้าคนสงเคราะห์แสดงว่ากรรมเก่าเริ่มหมด
ถ้าไอ้ตัวไหนยังต้องเดินอดเดินอยากอยู่ อันนี้ก็ต้องเกิดอีกต่อไปอีก
เขาอยู่กับคนจนหรือคนรวยไม่สำคัญ คือว่าเจ้าของมีโอกาสให้ข้าวกิน นั่นแสดงว่า ทานบารมี เดิมกับ เมตตาบารมี เดิมของเขาเริ่มให้ผลใช่ไหม
ฉันสังเกตุดูหลายตัว ถ้าหมาในวัดตายทีไร ไม่เป็นเทวดาก็พรหม เพราะมันชอบใจในพระ พระสงเคราะห์ พระให้อาหารหมา อาหารแค่ไหนไม่สำคัญ ให้มันผูกจิตใจกับพระ
อย่าง โฆษกเทพบุตร ท่านไม่ได้ทำอะไรมาก ท่านรักพระปัจเจกพุทธเจ้า ตายแล้วก็เป็นเทวดา เป็น โฆษกเทพบุตร ตอนนั้นเป็นหมาใช่ไหม นี่หมาอยู่กับวัดได้เปรียบ
แต่ว่าตัวไหนถ้าอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านเขาสงเคราะห์ ก็สงเคราะห์อย่างเราให้กินน้ำข้าวบ้าง กินข้าวบ้าง อาหารเหลือบ้าง อันนี้น่ะ เมตตาบารมี กับ ทานบารมี เดิมของเขาเริ่มสนองแล้ว
ทีนี้ถ้าตายแล้วไปสวรรค์หมด ถ้าไม่ไปสวรรค์ก็ไปเป็นคน ถามว่าไปสรรค์ชั้นไหน อันนี้ก็ต้องบอกแล้วแต่บุญเดิม บุญเดิมที่ทำไว้ของเขาทำอะไรไว้ใช่ไหม
นั่นก็หมายความว่า ก่อนที่เขาตายจากความเป็นคน บาปทำให้เขาไปเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าที่ที่สุดแล้วชำระหนี้บาปหมด ก็เหลือแต่บุญ ซึ่งตรงข้ามกับคน
คนสร้างบาปอกุศลไว้ในตอนต้น แล้วมาตอนหลังสร้างบุญบารมีดี ตายจากความเป็นคน เป็นเทวดาหรือพรหม ถ้าหมดบุญวาสนาบารมี พุ่งหลาวเลย ลงนรกไปเลย มันก็ต้องสนองกันแบบนี ไม่ใช่ว่าเราเกิดเป็นคนแล้วต้องเกิดเป็นคนตลอดไป มันหวังอยากเหมือนกัน...
พวกนี้ชำระหนี้มาเพื่อหมด นี่เราเสียท่ามันอีกนะ ถ้าไม่ปฏิบัติดียิ่งเสียท่าหนัก หมาดันไปสวรรค์เป็นเทวดา เรากลับไปเป็นสัตว์นรกอีก แหม ..(หัวเราะ)
อ้าวนี่พูดตามความเป็นจริงนะ คือว่า คนเหยียดหยามสุนัข บางทีก็รู้สึกสลดใจนะโยม คนนี่มันไม่แน่ ตายแล้วอาจจะลงนรกได้ พวกหมานี่ไม่ลงแน่ ถ้าเขาใช้หนี้กรรมของเขายังไม่หมด เกิดเป็นหมาชาตินี้ ชาติหน้าเป็นหมาใหม่ก็ได้ ใช่ไหม
แต่ว่าหมาตัวไหนที่ชาวบ้านเลี้ยง เลี้ยงก็แบบเราเลี้ยงธรรมดานี่แหละ มีการให้กินข้าวใช่ไหมล่ะ
ถ้าคนสงเคราะห์แสดงว่ากรรมเก่าเริ่มหมด
ถ้าไอ้ตัวไหนยังต้องเดินอดเดินอยากอยู่ อันนี้ก็ต้องเกิดอีกต่อไปอีก
เขาอยู่กับคนจนหรือคนรวยไม่สำคัญ คือว่าเจ้าของมีโอกาสให้ข้าวกิน นั่นแสดงว่า ทานบารมี เดิมกับ เมตตาบารมี เดิมของเขาเริ่มให้ผลใช่ไหม
ฉันสังเกตุดูหลายตัว ถ้าหมาในวัดตายทีไร ไม่เป็นเทวดาก็พรหม เพราะมันชอบใจในพระ พระสงเคราะห์ พระให้อาหารหมา อาหารแค่ไหนไม่สำคัญ ให้มันผูกจิตใจกับพระ
อย่าง โฆษกเทพบุตร ท่านไม่ได้ทำอะไรมาก ท่านรักพระปัจเจกพุทธเจ้า ตายแล้วก็เป็นเทวดา เป็น โฆษกเทพบุตร ตอนนั้นเป็นหมาใช่ไหม นี่หมาอยู่กับวัดได้เปรียบ
แต่ว่าตัวไหนถ้าอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านเขาสงเคราะห์ ก็สงเคราะห์อย่างเราให้กินน้ำข้าวบ้าง กินข้าวบ้าง อาหารเหลือบ้าง อันนี้น่ะ เมตตาบารมี กับ ทานบารมี เดิมของเขาเริ่มสนองแล้ว
ทีนี้ถ้าตายแล้วไปสวรรค์หมด ถ้าไม่ไปสวรรค์ก็ไปเป็นคน ถามว่าไปสรรค์ชั้นไหน อันนี้ก็ต้องบอกแล้วแต่บุญเดิม บุญเดิมที่ทำไว้ของเขาทำอะไรไว้ใช่ไหม
นั่นก็หมายความว่า ก่อนที่เขาตายจากความเป็นคน บาปทำให้เขาไปเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าที่ที่สุดแล้วชำระหนี้บาปหมด ก็เหลือแต่บุญ ซึ่งตรงข้ามกับคน
คนสร้างบาปอกุศลไว้ในตอนต้น แล้วมาตอนหลังสร้างบุญบารมีดี ตายจากความเป็นคน เป็นเทวดาหรือพรหม ถ้าหมดบุญวาสนาบารมี พุ่งหลาวเลย ลงนรกไปเลย มันก็ต้องสนองกันแบบนี ไม่ใช่ว่าเราเกิดเป็นคนแล้วต้องเกิดเป็นคนตลอดไป มันหวังอยากเหมือนกัน...