วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

ชายเจ้าชู้ถูกฆ่าตายไปสำนักพระยายมราชแล้วไปเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 82 หน้า 192 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ชายเจ้าชู้ถูกฆ่าตายไปสำนักพระยายมราชแล้วไปเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์
คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 82 หน้า 192 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

     "..วัน ที่ 16 กันยายน 2531 เวลา 6.00 น. วันนี้ท่านลุงพุฒิ นุ่งผ้าพื้นโจงกระเบนเป็นผ้าไหมสวยมาก ท่านมาตามอาตมาให้ไปที่สำนักงานของท่านเพราะมีเรื่องด่วน อาตมาจึงตามท่านลุงไป พอไปถึงท่านพระยายมราชก็เข้าประจำที่ ท่านเรียกชายคนหนึ่งเข้ามา ขอสมมติว่าชื่อนายจันทร์ การสอบสวนคนนี้แปลกเพราะไม่ผ่านเจ้าหน้าที่สอบสวน ท่านลุงเรียกมาหาท่านโดยตรงคงจะเป็นเพราะเวลามีน้อย ชายคนนี้ผอมหน้าตาซีดเซียว ท่าทางอิดโรยมาก ตอนหลังการสอบสวนแล้วชายผู้นี้ทำภาพเมื่อเป็นมนุษย์ให้ดู เป็นชายล่ำสัน ผิวเนื้อสองสีค่อนข้างขาว มีขี้แมลงวันขนาดเล็กมากอยู่ระหว่างคิ้วทั้งสอง แต่ใกล้คิ้วขวามาก เรื่องไฝหรือขี้แมลงวันใกล้คิ้วขวานี้เป็นสัญลักษณ์บอกว่า เป็นคนที่ได้รับความเมตตาจากผู้หญิงมาก ตามีเสน่ห์หรือมองหญิงแล้วหญิงงงทุกราย ชายคนนี้ก็มีกรรมอย่างนี้เหมือนกัน เธอตายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2531 บ้านอยู่อีสานแต่มาทำงานกรุงเทพฯ ตายเพราะอุบัติเหตุคือ ถูกตียัดกระสอบตาย เพราะความมีเสน่ห์ของเธอ ปกติสาวชอบมาหา เธอก็เมตตาทุกราย

     และ ที่เหตุร้ายเกิดขึ้นถึงตายก็เพราะไปยุ่งกับสาวคือ เมียของนายเข้าถึงต้องตายและศพก็ถูกยัดใส่กระสอบฝังดินกลางทุ่งนา ไกลตาคนไปพบเห็น เสน่ห์มากก็มีภัยอย่างนี้ อาตมาถามเธอว่า "ทำไมทำรุ่มร่ามอย่างนี้" เธอตอบว่า "เห็นใจหญิงเธอมีความต้องการ ถ้าไม่ได้ตามความประสงค์เธอก็กลุ้ม" ถามว่า "เข้ามากรุงเทพฯ ทำงานอะไร" เธอตอบว่า "ทำทุกประเภท ก่อนตายทำงานรับจ้างเป็นงานก่อสร้าง นายเธอไม่ใช่ผู้รับเหมาแต่รับช่วงของงานมา เห็นจะเป็นหัวหน้าหน่วยงาน นายเอาเธอไปใช้ที่บ้าน เห็นทำงานคล่องและสุภาพเรียบร้อย ความสุภาพและงานดีทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ หญิงในบ้านทุกคนเมตตามีความสุข ในที่สุดเมียนายก็เมตตาด้วย เป็นเหตุให้ได้เงินใช้มากขึ้นเพราะเมียนายเมตตานี่เอง ในที่สุดก็กลายเป็นผี"

     เมื่อ ท่านลุงเรียกเข้าไป รูปร่างหน้าตาของเธอเลอะเทอะเหมือนถูกทูบตีแบบยับเยิน ท่านลุงถามว่า "เอ็งชอบไปยุ่งกับลูกเขาเมียเขาใช่ไหม" เธอตอบว่า "ใช่" ท่านลุงถามว่า "ทำไมถึงทำเช่นนั้น" เธอตอบว่า "เห็นใจหญิง เมื่อเธอมาหาแล้วก็ไม่อยากให้เธอผิดหวัง" ท่านลุงบอกว่า "เอ็งมีบาปแต่เวลาเอ็งไปฝึกกรรมฐาน เอ็งบอกให้ข้าเป็นพยานทุกคราว ต่อไปถ้าขอให้ข้าเป็นพยานละก็ จงอย่าทำบาปนะ มันผิดระเบียบของเขา แต่เมื่อให้เป็นพยานก็จะเป็นพยานให้" ท่านพูดต่อไปว่า

ลูกศิษย์ที่ใจบุญแต่เจ้าชู้


     1) เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ต้นเดือน เอ็งไปรับศีลแปดและปฏิบัติศีลแปดตลอด 3 วันใช่ไหม เธอตอบว่า "ใช่"

     2) เธอถวายสังฆทานถังเล็กถังละ 100 บาท รวม 17 ถังใช่ไหม เธอตอบว่า "ใช่" จากนั้นภาพสังฆทานถังเล็กก็ปรากฎตั้งเป็นแถว

     ท่าน ลุงบอกว่า "เท่านี้พอแล้วเอ็งดีมาก แต่เอ็งทำบาปวันอื่นนอกจากนั้นเล่นกาเมนอกบ้านทุกวัน เอ็งมีบาปมาก เอ็งเคยฆ่าปลา กบ เขียด งู ไก่ โกหกก็เก่ง พบสาวโสดหรือสาวมีผัวรูปร่างต้องใจเมื่อไรเป็นโกหกทุกที กลับมาบ้านยังโกหกเมียอีก ลักขโมยเธอไม่เป็น สุราเมรัยดื่มนิดหน่อยแต่มันก็เป็นบาปเขาต้องเอาลงนรก"

     พอ ท่านลุงพูดจบ เธอทำท่าจะล้ม ท่านลุงเตือนให้ยืนตรง ๆ แล้วบอกว่า "ข้ายังพูดไม่จบเลย ทำท่าจะตายแล้ว ให้พูดจบก่อนซิ" แล้วท่านก็พูดต่อไปว่า "เมื่อเอ็งให้ข้าเป็นพยานบุญ ข้าก็ต้องเป็นและเบิกความให้ ข้าเป็นพยานให้แล้ว ถวายสังฆทานและรักษาศีลแปดเดือนละ 3 วัน ศีลขาดเดือนละ 27 วัน เจริญกรรมฐานเดือนละ 3 วัน ทำกาเมเดือนละ 27 วัน ไม่เลือกกลางวันหรือกลางคืน ในเมื่อมีอารมณ์เศร้าหมองสลับกับอารมณ์แจ่มใส บุญอย่างนี้ปกติไปอยู่ชั้นนิมมานรดี แต่เพราะศีลขาดมากกว่าศีลดี จิตผ่องใสน้อยกว่าจิตเจ้าชู้ วิมานเอ็งอยู่แค่ดาวดึงส์ เอ็งไปรับผลของความดีก่อนตามกำลังบุญของเอ็งก็แล้วกัน" เมื่อเธอได้ฟังอย่างนั้น รู้สึกว่าร่างกายผ่องใสขึ้นทันที สวยขึ้น ๆ ในที่สุดก็แต่งกายเป็นเทวดาสวยงามมาก ท่านลุงจึงให้เทวทูตนำไปส่งที่วิมานของเธอ

     เมื่อ เสร็จภารกิจของท่านลุงแล้ว ท่านก็มาพูดว่า ที่ท่านไปตามอาตมามาในยามเช้าก็เพราะชายผู้นี้เนื่องกับอาตมาคือเป็นลูก ศิษย์ที่ใจบุญแต่เจ้าชู้.."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น