วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อวยพร วันปีใหม่2016/2559

...เหลือ 5 วันสุดท้ายปี 2015 ^^

... ให้อภัยคนที่ทำร้ายฉัน
... ขออภัยคนที่ฉันทำร้าย
... ขอบคุณคนที่รักฉัน
... ขออวยพรให้คนที่ฉันรัก
... ขอบคุณคนรอบข้างฉัน
... คนที่คิดถึงฉันจงคิดถึงฉันต่อไป
... ใจเหนื่อยล้าก็ปล่อยวาง
... กายอ่อนล้าก็พักผ่อน
... หลุดลอยไปแล้วไม่กลับมา
... ให้ทนุถนอมสิ่งที่กลับคืนมา

ในปี 2016.

... จงมาแต่สิ่งดีดี สิ่งร้ายร้ายจงไป
... สุขภาพยังคงแข็งแรง
... โรคภัยจงไป อย่าแผ้วพาน
... ขออวยพรให้ร่มเย็น มีความสุข
... ร่ำรวยเงินทอง ไม่ขัดส

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรียนเชิญร่วมบุญ โครงการก่อสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ องค์ใหญ่ที่สุด วัดวีระโชติธรรมาราม คลองหลวงแพ่ง เมือง ฉะเชิงเทรา

เรียนเชิญร่วมบุญ โครงการก่อสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ องค์ใหญ่ที่สุด
วัดวีระโชติธรรมาราม คลองหลวงแพ่ง เมือง ฉะเชิงเทรา
วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2558

สำหรับผู้ที่จะร่วมทำบุญมี 2 วิธี นะครับ
/1/.ทำบุญได้ที่วัดตลอดเวลา 
/2/.ผ่านบัญชีธนาคาร

1.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา กองทุนสร้างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(องค์ใหญ่) เลขที่ 386-8-00603-6
2.ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา กองทุนชมรมลูกพระราชพรหมยานฯ เลขที่ 409-2-48761-5
3.ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา กองทุนสร้างหลวงพ่อฤาษีลิงดำองค์ใหญ่ที่สุด เลขที่ 404-309737-9

โอนแล้วแจ้ง sms ที่เบอร์ 087 922 4888

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

๓๑ธ.ค.-๑ม.ค.สวดมนต์ข้ามปี รับโชคปีใหม่๒๕๕๙ ณ วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา





๓๑ธ.ค.-๑ม.ค.สวดมนต์ข้ามปี รับโชคปีใหม่๒๕๕๙ ณ วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา

เชิญทุกท่านร่วมสวดมนต์ข้ามปี พิธีสวดภาณยักษ์ รับโชคปีใหม่ สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง เปลี่ยนชะตาชีวิต ปราศจากทุกข์โศรกโรคภัย และพิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่บุญมา วัดบ้านแก่ง หน้าตัก ๓๒ นิ้ว
ผู้เข้าร่วมพิธีรับแจกสมเด็จฯ รุ่นชนะจน
วันพฤหัสบดี ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ - ๑ มกราคม ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.
ณ วัดวีระโชติธรรมาราม เมือง ฉะเชิงเทรา

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วิธีต่ออายุอย่างง่ายๆ โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

วิธีต่ออายุอย่างง่ายๆ โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง




การต่ออายุก็ต้องทำให้มันถูก ถ้าทำไม่ถูกแล้วก็เสียเงินเปล่า ถ้าบังเอิญเป็น อายุขัยต่อเท่าไรไม่สำเร็จผล เพราะเชื้อไฟเดิมดับ หมดบุญบารมีที่ทำมา การหมดบุญบารมีนั้นแม้อายุขัยก็ไม่แน่ บางคนเป็นเด็กก็หมดอายุขัย บางคนก็เป็นหนุ่ม เป็นสาว บางคนวัยกลางคน บางคนก็ถึงวัยแก่ อายุขัยนี่ไม่แน่นอนนัก 

คำว่า อายุขัย นี่หมายความว่าก่อนที่จะเกิด กฎของกรรมดีหรือกรรมชั่วกำหนดชีวิตให้มาเท่าไรถ้ากำหนดชีวิตมา ๒๐ ปี ก็ต้องแค่ ๒๐ ปี ๑๐ ปีก็ต้อง ๑๐ ปี ๓ วัน ก็ต้องแค่ ๓ วัน นี่เป็นอายุขัยต่อไม่ได้ ถ้าตายก่อนนั้นเขาเรียกว่า "อุปฆาตกกรรม" หรือว่า "อกาลมรณะ" อย่างนี้ต่อได้ และถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายจะต่ออายุแบบนี้ ก็ต่อเสียทุกวันก็หมดเรื่องกัน 

วิธีต่อทุกวัน ก็หมายความว่า ให้ทุกท่านมีความเคารพในพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ อย่างจริงจัง และก็ต้องเว้นจากกรรมที่ เป็น ปาณาติบาต และถ้ามีเวลาเดินผ่านไป มีใครเขาหาปลาหาเต่า ที่เขาจะฆ่ามันให้ตายก็ออกสตางค์ซื้อ พอกำลังที่เราจะซื้อได้ แล้วก็นำไปปล่อยในที่ปลอดภัย ไม่ใช่ปล่อยในหม้อข้าวหม้อแกงของเรานะไปปล่อยในสถานที่ ๆ เธอจะมีความสุขในแม่น้ำก็ได้ หนอง คลอง บึงก็ได้ปล่อยให้เธอรอดชีวิต 

ตามวิธีโบราณาจารย์ท่านสอนไว้อย่างนี้นะว่า 

วิธีต่ออายุใหญ่ คือถึงปีหนึ่งถ้าเป็นวันเกิด หรือเป็นวันสำคัญของเรา วันไหนก็ได้ทำกับข้าว ทำอาหารพิเศษตามที่เราพอใจ เท่าที่ทุนจะพึงมี จัดการใส่บาตรแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แล้วก็ถ้าหากว่ามีสตางค์ก็สร้างพระพุทธรูปสัก ๑ องค์

พระพุทธรูปนี่จะเป็นพระดินเหนียวก็ได้ เป็นพระปูนซีเมนต์ก็ได้ เป็นปูนปลาสเตอร์ก็ได้ หรือพระโลหะก็ได้ไม่จำกัด เพราะเป็นรูปพระแล้ว มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ต้องมีหน้าตักไม่น้อยกว่า ๔ นิ้ว ถวายไว้เป็นสมบัติของสงฆ์

หลังจากนั้นก็เอาสัตว์ที่จพึงถูกฆ่าตาย อย่างที่เขานำเอามาขายเพื่อแกงหรือที่เขาทอดแหสุ่มปลาได้ ถ้ามีสตางค์ก็ไปซื้อเขาสักตัว ๒ ตัว ตามกำลัง แล้วปล่อยไป และก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และเทวดาผู้รักษาชีวิต ท่านบอกว่าถ้าทำอย่างนี้เป็นนิจ คำว่า อุปฆาตกกรรม คือกรรมที่เข้ามาริดรอนก่อนอายุขัยก็ดี และ อกาลมรณะ การที่จะตายก่อนอายุขัยก็ดี จะไม่มีสำหรับผู้ที่ทำแบบนี้ แต่ทว่าถ้ากรรมอย่างนี้เข้ามาถึงแค่ป่วยไม่มากก็เป็นของธรรมดา
 

เรื่องการต่ออายุนี่ มีในพระพุทธศาสนา 

แต่ว่าวิธีการต่ออายุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเดี๋ยวนี้ที่ทำกันก็จ่ายหนักอยู่เหมือนกันนะ เอาพระไปสวดตั้ง ๗ วันนี่ เสียทั้งข้าว ทั้งน้ำ นี่บางทีก็ต้องจ่ายสตางค์ด้วย แย่เหมือนกันนะพระเองก็จะทนไม่ไหว ก็เลยใช้สายสิญจน์ก็แล้วกัน แต่ว่าสายสิญจน์ที่ทำกันนั้น ก็อย่าลืมพระรัตนตรัย แต่ทางที่ดีญาติโยมพุทธบริษัทถ้าจะทำอย่างนั้นนะ ถ้าคนป่วยจริง ๆ อย่าปล่อยให้ไม่มีความรู้สึกตอนที่สติยังอยู่ดี ๆ อยู่ ให้นิมนต์พระไปสวดสักครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่สวด อภิธรรม หากเป็นสวด พระปริตร วงสายสิญจน์ล้อมรอบ ถ้าผู้ป่วยจะต้องตายเพราะสิ้นอายุขัยก็ต้องตายแน่ สายสิญจน์ป้องกันไม่ได้ 

แต่ว่าถ้าท่านผู้นั้นจะตาย อย่าลืมว่าคนป่วยก็เหมือนกับคนที่ตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็นเราส่งอะไรให้เกาะเขาก็จะเกาะ ส่งไม้ให้เกาะเธอก็เกาะ ส่งสุนัขเน่าให้เกาะ เธอก็เกาะ เพราะต้องการทรงชีวิตอยู่ ก็เช่นกันถ้าคนป่วย เห็นพระสวด พระปริตร จิตของคนป่วยในตอนนั้น ได้รับสมาทานศีลก่อน เวลานั้นก็จะรับการสมาทานศีลอยู่ด้วย สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ทำให้เป็นคนที่มีศีลเวลาที่มีการสวด พระปริตร จิตก็จะฟังพระสวดด้วยความเคารพ จิตจะยึดอยู่กับพระหลังจากพระกลับแล้ว จิตจะจับอารมณ์นั้นตลอด เพราะในขณะป่วยไม่มีโอกาสทำลายศีลต่อไปอีกเพราะกำลังป่วยอยู่ก็ไม่สามารถที่จะไปฆ่าใคร หรือลักขโมยใคร ถือว่าเป็นคนป่วยที่มีศีลบริสุทธิ์ 

ถ้ามีการถวายทานด้วย ไม่ว่าทานนั้นจะเป็น ธูป เทียน ดอกไม้ หรือปัจจัยโภชนาหารก็ตามถือว่าเป็นการถวายทานแก่พระสงฆ์ กำลังของทานจะช่วยคนป่วยได้อีกแรงหนึ่ง อีกประการหนึ่ง ด้านอนุสสติ ถ้ามีพระพุทธรูปด้วย จิตของเธอจะจับพระพุทธรูปเป็นพุทธานุสสติ จำเสียงสวดเป็น ธัมมานุสสติ การนึกถึงพระสงฆ์ ไปสวดก็เป็น สังฆานุสสติ ถ้าเป็นอายุขัยที่จะพึงตายบาปกรรมใด ๆ ที่ทำมาแล้วในกาลก่อนจะไม่มีโอกาสให้ผลในเวลานั้น เหลือแต่บุญอย่างเดียวที่จะประคับประคองคนนั้นไปสวรรค์ ไปพรหมโลกหรือไปนิพพาน

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

๕-๗ธ.ค.๒๕๕๘ ปฏิบัติธรรมถวายในหลวง

พุทธโอวาทก่อนปรินิพพานว่า
"ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่าน สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ”
ในมหาปรินิพพานสูตร
วัดวีระโชติธรรมาราม เชิญชวนประชาชน พุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติธรรม เจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนาเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา
๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๕ - ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘
ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา แห่งที่ ๒๘ วัดวีระโชติธรรมาราม ตำบลคลองหลวงแพ่ง(คลองอุดมชลจร) อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ก่อนตายจะไปเกิดที่ไหนมีนิมิตบอก... จาก...หนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๔ โดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

...ก่อนตายจะไปเกิดที่ไหนมีนิมิตบอก...
จาก...หนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๔ โดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
"....ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ทุกวันถ้ามีความจำเป็นต้องทำบาป อย่างพวกปลูกผักปลูกหญ้านี่ เวลาที่ทำแล้วกลับมาบูชาพระลืมบาป ทิ้งบาปเสีย
...ตั้งใจภาวนา พุทโธ บ้าง สัมมาอรหัง บ้าง อะไรก็ได้ตามชอบใจ
พอถึง เวลาบูชาพระ ก็ นึกถึงเฉพาะพระ เวลาเราจะหลับนึกถึงเฉพาะพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ตั้งใจไว้เลยว่าเราจะไปนิพพาน ถ้าชาตินี้ตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น แล้วภาวนาว่า พุทโธ จับลมหายใจเข้าให้หลับไป
...พอตื่นขึ้นมาใหม่ก็ตั้งใจเฉพาะภาวนาว่าพุทโธ เราจะไปนิพพาน
เอาแค่นี้บรรดาพุทธบริษัท ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนทำได้จริง คำว่าทำได้จริงก็หมายความว่า เวลาเข้าบ้านปั๊บ ถึงเวลาบูชาพระ จิตต้องไม่นึกถึงบาป
....แล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ ตั้งใจไปนิพพาน พอตื่นขึ้นมาปั๊บจิตก็นึกถึงพระนิพพานขึ้นมาทันที ภาวนาว่า พุทโธ อย่างนี้จิตเป็น ฌาน ถ้าจิตเป็นฌานอย่างนี้ทุกคน สังเกตเวลาตาย กำลังบารมียิ่งมีความสำคัญ
...ถ้าบารมีของเรายังอ่อนถ้าเวลาตายเห็นกองไฟ มีความสุข เพราะอะไรรู้ไหม ปลาจะสุกได้เพราะไฟใช่ไหม นั่นลงนรกแน่นอน
...ถ้าเห็นป่าจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
...เห็นก้อนเนื้อไปเกิดเป็นมนุษย์ ภาพเกิดก่อนจะตายนะ
...ทีนี้ถ้าเราเป็นคนมีบุญ เมื่อมันจะตายจริง ๆ ถึงแม้จะมีบุญน้อย เรานึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึง พุทโธ ไว้ ขณะนั้นถึงแม้จะมีทุกขเวทนาก็ตามใจแต่ว่าตอนต้นเรานึกถึง พุทโธ ไว้ ก่อนจะตายประมาณ ๓ วัน จะมีรถทิพย์มารับพร้อมกับเทวดานางฟ้าแวดล้อม ถ้าเราเห็นเทวดานางฟ้าอยู่ข้างหน้า พรหมอยู่ตรงกลาง พระอรหันต์อยู่ข้างหลัง เราก็เกิดบนสวรรค์
...ถ้าเราเห็นพรหมอยู่ข้างหน้า พระอรหันต์อยู่ตรงกลาง นางฟ้าเทวดาอยู่เบื้องหลัง เราไปเกิดเป็นพรหม
...ถ้าเราเห็นพระพุทธเจ้าอยู่แถวหน้า พระพุทธเจ้าอยู่แถวหน้า นั่นเราไปนิพพานแน่..."