ฝันกลางวันที่เยอรมัน( ผีอิตเลอร์พาไปดูอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของโลกในเยอรมัน)
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ รวมเล่ม 3-4 หน้า 5-7
ฝันกลางวันที่เยอรมันตะวันตก
เสาร์ 25 มิถุนายน 2531 หลังจากเช้าแล้วออกเดินทางจากลูเซิร์น โดยผ่านน้ำตกไรน์
ข้าพเจ้านั่งง่วงนอนมากแบบฝืนตัวเองไม่อยู่เหมือนถูกบังคับ
คุณทนงพูดอะไรไม่รู้เรื่องจับใจความไม่ได้รู้แต่ว่ารถแล่นเข้าถ้ำบ่อย
เขาสร้างทางลัดไม่ต้องอ้อมเขา นั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นกำลังงีบอยู่ ตกใจใครนะตัวใหญ่ยืนข้างหน้า
ลืมตาดูเห็นว่ารถกำลังแล่นในอยู่ในอุโมงค์ที่ไหนไม่รู้ ผีคงมีเรื่องอยากให้ทราบล่ะมั้ง จึงหลับตาทำสมาธิมโนมยิทธิแบบครึ่งกำลัง คือแค่อุปจารสมาธิ เห็นผีกราบหลวงพ่อท่านซึ่งนั่งเก้าอี้ข้างหน้าของข้าพเจ้า มีคุณโชติวุฒิกับผู้การสถาพรนั่งคั่นที่นั่งเดียว ถามท่านว่าเป็นใคร ท่านบอกว่าเป็นฮิตเลอร์
ท่านบอกว่าเวลานี้เยอรมัน มีอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงและทันสมัยที่สุดในโลก ไม่ใช่รัสเซียหรืออเมริกา นึกแผ่ส่วนบุญที่ทำมาแล้วในอดีตชาติปัจจุบันและจะทำอีกจนกว่าจะถึงพระนิพพานให้ท่านโมทนา คุยกับท่านแบบเอาใจ(อทิสสมานกาย)ถามเองตอบเอง แต่ท่านยังอยู่ข้างหน้า ท่านพาไปดูอาวุธ
ทีนี้ก็เหมือนฝันกลางวันยังรู้ตัวว่าในรถเราทำอะไรกันบ้าง แต่ไม่สนใจเท่านั้นเอง โดยอาวุธอยู่ใต้ดินใกล้ภูเขาแบบซอกเขา เพราะมันไม่ใช่เขาลูกเดียว ฝาปิดเปิดแบบอะไรดีเรียกไม่ถูก ลองเอามือ สองข้าง กางนิ้วออกแล้วเอานิ้วสอดเข้าชนกันสลับนิ้วหนีบนิ้วสองมือก็จะติดแน่น เวลาที่จะเปิดก็เลื่อนนิ้วออกจากกันแนวตรงนะ ไม่ใช่กระดกขึ้น อาวุธที่อยู่ในนั้นลอยขึ้นมา แต่ละอย่างไม่ใหญ่อย่างที่เราเคยเห็น
ตอนนั้นรู้ว่ามีอะไรจำนวนเท่าไรด้วย แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้วเพราะเป็นความลับของเขาและคิดว่าเราไม่รู้จริงจึงไม่จดไว้ ข้าพเจ้ายังถามฮิตเลอร์ว่า หนุ่มเยอรมันที่ขับเครื่องบินเล็กไปจอดที่จัตุรัสแดง ในกรุงมอสโคว์โดยเรดาร์จับไม่ได้ ไปเอาแร่ที่ดาว......นั่นใช่ไม๊ ท่านตอบว่าใช่ หลวงพ่อท่านเคยเขียนในหนังสือ จุไรท่องเที่ยวดวงดาวต่างๆ ท่านเขียนบอกว่า สงสัย คือไม่พูดตรงๆเกรงคนจะบาป ข้าพเจ้าเชื่อว่าจริงแต่ไม่แน่ใจ วันนั้นฮิตเลอร์ว่าจริง ท่านจึงพาไปดูอาวุธลับ 2-3 อย่างเท่านั้น ไม่เห็นมีกระบอกปืน มีแต่ปุ่มๆกดเอา มีคนนั่งได้อย่างมาก 2 คนเช่นจานบิน บางอย่างไม่มีที่นั่งยังกับของเด็กเล่น แต่สะอาดมันเป็นวับเลย
ถามท่านว่าทำไมไม่มีกระบอกปืน แบบที่เราเคยเห็นทั่วไป ท่านบอกว่าเขาใช้แสงเอา ตอนที่ลงทานอาหารกลางวัน หลวงพ่อท่านคุยกับผู้การสถาพร กับคุณโชติวุฒิ ว่าท่านก็ง่วงนอนมาก ระหว่างที่นั่งรถ ฮิตเลอร์กับสตาร์ลินก็มาคุยกับท่านด้วยว่าอะไรบ้างข้าพเจ้าไม่ได้ฟังเพราะพอลงจากรถได้ก็รีบๆ เดินหาซื้อมีดตราตุ๊กตาคู่ รู้มาตั้งแต่เด็กว่ามีดของเยอรมัน คมดีมาก เข้าร้านนั้นออกร้านนี้พี่ชอด้วย มีขายไม่กี่อันตั้งใจจะซื้อ หลายๆอันฝากแม่บ้าน ทั้งหลาย ไม่ได้ ขนาดเข้าไปนั่งโต๊ะอาหาร ยังรีบๆกินแล้วออกไปหาใหม่
ร้านอาหารเมืองนอกถ้าไม่นั่งโต๊ะเขาไม่เสิร์ฟซะด้วย ดีที่ว่าร้านติดๆ ที่กินข้าว มีมีดขายรีบบอกกล่าวกัน ต้องแลกเงินเยอรมันอีกวุ่นวายน่าดูเหมือนกัน ผู้หญิงดูท่าจะซื้อกันทุกคน มีดที่วางไว้ในตู้หมดเลย เศรษฐีไทยเหมาเกลี้ยง มีด กรรไกร เป็นของกุลสตรีไทยมิใช่หรือ จะได้ช๊อปปีงที่เยอรมันก็ตรงระหว่างทางนั้น แห่งเดียว ร้านมีอยู่ 5-6 ร้าน เท่านั้น จ้ำเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ข้าพเจ้าได้รถเบนซ์ สองคัน เป็นแบบนั่งธรรมดากับแบบสปอร์ตของวัยรุ่นเอาไว้คุยเล่นโก้ๆ ว่าไปเยอรมันทีเดียวซื้อเบนซ์ สองคันเลย ( เราก็อย่าบอกเขาว่ารถใส่ตู้โชว์) วันนั้นนั่งรถระยะยาวอาหารเย็นระหว่างทาง ถึงแฟรงค์เฟิร์ตค่ำแล้ว เข้าที่พักอยู่นั่นคืนเดียว กว่าจะนอนได้ก็ดึกแล้ว รื้อกระเป๋า จัดกระเป๋า ทุกวันชำนาญแน่ทัวร์ครั้งนี้
พวก ยุโรป เขาพิถีพิถันกันในเรื่องแต่งกาย ไม่เหมือนไปอเมริกา เราจึงต้องหล่อไว้บ้างไม่ให้ขายหน้าชาติไทย
คืนนั้น ก่อนนอนสวดมนต์ แบบย่อๆ หน่อย เอาบทไหนดี กันหลอกผี สงสัยผีมีเยอะโรงแรมเก่า ๆแบบนี้ เยอรมันนี่ตอนสงครามโลกตายกันมาก ผู้มีบุญคงไม่ค่อยมานอนต้องกันไว้ก่อนดีๆ หนักเข้าพุทโธ ดีกว่าง่ายดี ทำสมาธิขั้นถึงที่สุดแล้วแผ่ส่วนบุญให้หมดเลยมีมากจริงๆ อย่ามากวนให้นอนไม่หลับนะท่าน ไม่งั้นเอาคืนด้วย ขอให้เจ้าที่ช่วยหลับให้สนิทๆ ด้วย แถมด้วยคาถา ภะสัมสัมวิสะเทภะ ขับไล่ด้วย ต่อด้วยบทเมตตาอีกเผื่อเราไม่แข็งจริง
คาถาที่หลวงปู่ปานใช้เป็นประจำคือ พระอะระหังสุคโต ภะคะวา นะเมตตาจิต หลวงพ่อท่านบอก คืนนั้น หลับสนิทไม่ฝันด้วย ตื่นตามเวลาคือตีห้ากว่า ๆ พอดีกันที่ตั้งใจไว้ก่อนหลับ เข้าห้องน้ำล้างหน้าแต่งตัวจัดกระเป๋า แล้วเข็นออกไปไว้หน้าห้อง ลงไปทานอาหารเช้าตามเวลานัด หลวงพ่อท่านและพระติดตามไปฉัน ที่ห้องอาหาร ของโรงแรมทุกเช้าเหมือนกัน ที่นั่งเป็นชุดๆจำกัด ผู้หญิงจึงไม่เหมาะจะเข้าไปใกล้ จึงไม่ค่อยได้ยินว่าหลวงพ่อท่านคุยอะไรบ้างเรื่องในอดีตชาติ
ท่านเคยพูดก่อนเดินทางว่า ท่านไปยุโรปจะฝื้นอดีต ข้าพเจ้ากับพี่ชอคิดกันว่า ท่านคงหมายถึงไปโปรด พวกบริวารเก่าที่เคยเกิดร่วมกันในอดีตชาติที่ยังตกค้างอยู่ เพราะชาตินี้ท่านลาพุทธภูมิแล้ว ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกนะ
เช้านั้นท่านฉันสร็จไปนั่งที่เก้าอี้หมู่ คอยเวลารถไปรับที่ห้องรับแขก ของโรงแรม ข้าพเจ้าเดินย่อตัวผ่านท่านจะไปดูของขายเผื่อจะมีถูกใจบ้าง ท่านเรียกเข้าไปหาถามว่าเมื่อคืนฝันว่าไงบ้าง ฝันของท่านหมายความถึงเห็นผี เห็นเทวดา ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนท่านว่า เมื่อคืนไม่ฝันเจ้าค่ะ หลับสนิท ฝันตอนกลางวันเมื่อวานนี้
ท่านให้เล่าให้ฟัง จึงเรียนท่านว่า ฮิตเลอร์พาไปดูอาวุธลับ มีอะไรบ้าง พูดหมด ถามท่านด้วยความสงสัยว่า รถถังของเขาคันไม่ใหญ่แล่นบนดิน ปีนเขาได้ ลอยได้ด้วย ท่านว่าใช่ แล้ว ลอบยด้สูง ร้อยเมตร ท่านว่าเห็นถูกต้อง สงสัยที่ข้าพเจ้าไปกับฮิตเลอร์ ท่านก็คงไปด้วยเหมือนกัน แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นท่าน ท่านเห็นเรา สรุปเห็นตรงกันแสดงว่า ฝันกลางวันเป็นความจริง แต่ไม่ควรพูดเปิดเผยเป็นความลับของเขา จากที่สงสัยว่าปืนเขาไม่เป็นกระบอก ไม่มีกระสุนนั้นอีกเกือบปี ข้าพเจ้าดูทีวีเห็นข่าวอเมริกาทดลองยิงเครื่องบิน เร็วกว่าเสียงด้วยแสง อะไรไม่รู้ลืม เห็นกดปุ่มเป็นควันแล่นออกไปเร็วมาก เป็นสายบนท้องฟ้า อ้อ แบบนี้เองเยอรมันเขามีเก็บซ่อนไว้ตั้งนานแล้ว ฮิตเลอร์ว่าเยอรมันมีอาวุธเก่งที่สุดในโลกเป็นจริงอีก